Fool Again
Baby, I know the story
ที่รัก ฉันรู้เรื่องราวของเธอ
I've seen the picture
ฉันได้เห็นรูปภาพ
It's written all over your face
มันได้แสดงออกมาทั้งหมดบนใบหน้าของเธอ
Tell me, what's the secret
บอกฉันซิ ถึงความลับของเธอ
That you've been hiding
ที่เธอได้หลบซ่อนเอาไว้
Who's gonna take my place
ใครกำลังที่จะแย่งที่ในใจของเธอจากฉันไป
I should've seen it coming
ฉันควรที่จะเห็นเมื่อมันกำลังจะมาถึงนะ
I should have read the signs
ฉันควรที่เห็นอาการนั้น ก่อน
Anyway...I guess it's over
อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่า มันจบลงแล้ว
Can't believe that I'm the fool again
ไม่อยากเชื่อเลยว่า ฉันได้กลายเป็นคนโง่อีกครั้ง
I thought this love would never end
ฉันเคยคิดว่าความรักนี้จะไม่มีวันจบลง
How was I to know
ฉันจะรู้ได้อย่างไร
You never told me
เธอไม่เคยที่จะบอกฉันเลย
Can't believe that I'm the fool again
ไม่อยากเชื่อเลยว่า ฉันได้กลายเป็นคนโง่อีกครั้ง
And I who thought you were my friend
และฉันคนที่คิดว่า เธอเป็นเพื่อนของฉัน
How was I to know
ฉันจะรู้ได้อย่างไร
You never told me
เธอไม่เคยที่จะบอกฉันเลย
Baby, you should've called me
ที่รัก เธอควรทีจะเรียกหาฉันนะ
When you were lonely
ในเวลาที่เธออ้างว้าง
When you needed me to be there
เมื่อเธอต้องการให้ฉันไปอยู่ที่นั้น
Sadly, you never gave me two many chances
น่าเสียใจ ที่เธอไม่เคยให้โอกาสฉันมากกว่าสองครั้งเลย
To show how much I care
ที่จะแสดงออกให้เธอรู้ว่า ฉันเป็นห่วง มากแค่ไหน
I should've seen it coming
ฉันควรที่จะเห็นเมื่อมันกำลังจะมาถึงนะ
I should have read the signs
ฉันควรที่เห็นอาการนั้น ก่อน
Anyway...I guess it's over
อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่า มันจบลงแล้ว
Can't believe that I'm the fool again
ไม่อยากเชื่อเลยว่า ฉันได้กลายเป็นคนโง่อีกครั้ง
I thought this love would never end
ฉันเคยคิดว่าความรักนี้จะไม่มีวันจบลง
How was I to know
ฉันจะรู้ได้อย่างไร
You never told me
เธอไม่เคยที่จะบอกฉันเลย
ฉันเคยคิดว่าความรักนี้จะไม่มีวันจบลง
How was I to know
ฉันจะรู้ได้อย่างไร
You never told me
เธอไม่เคยที่จะบอกฉันเลย
Can't believe that I'm the fool again
ไม่อยากเชื่อเลยว่า ฉันได้กลายเป็นคนโง่อีกครั้ง
And I who thought you were my friend
และฉันคนที่คิดว่า เธอเป็นเพื่อนของฉัน
ไม่อยากเชื่อเลยว่า ฉันได้กลายเป็นคนโง่อีกครั้ง
And I who thought you were my friend
และฉันคนที่คิดว่า เธอเป็นเพื่อนของฉัน
How was I to know
ฉันจะรู้ได้อย่างไร
You never told me
เธอไม่เคยที่จะบอกฉันเลย
About the pain and the tears
เกี่ยวกับความเจ็บปวดและน้ำตานั่น
Oh, Oh, Oh
โอ โอ โอ
If I could, I would turn back the time
ถ้าฉันสามารถ ฉันจะย้อนเวลากลับไป
I should've seen it coming
ฉันควรที่จะเห็นเมื่อมันกำลังจะมาถึงนะ
I should have read the signs
ฉันควรที่เห็นอาการนั้น ก่อน
Anyway...I guess it's over
อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่า มันจบลงแล้ว
Can't believe that I'm the fool again
ไม่อยากเชื่อเลยว่า ฉันได้กลายเป็นคนโง่อีกครั้ง
I thought this love would never end
ฉันเคยคิดว่าความรักนี้จะไม่มีวันจบลง
How was I to know
ฉันจะรู้ได้อย่างไร
You never told me
เธอไม่เคยที่จะบอกฉันเลย
Can't believe that I'm the fool again
ไม่อยากเชื่อเลยว่า ฉันได้กลายเป็นคนโง่อีกครั้ง
And I who thought you were my friend
และฉันคนที่คิดว่า เธอเป็นเพื่อนของฉัน
How was I to know
ฉันจะรู้ได้อย่างไร
You never told me
เธอไม่เคยที่จะบอกฉันเลย
Can't believe that I'm the fool again
ไม่อยากเชื่อเลยว่า ฉันได้กลายเป็นคนโง่อีกครั้ง
I thought this love would never end
ฉันเคยคิดว่าความรักนี้จะไม่มีวันจบลง
How was I to know
ฉันจะรู้ได้อย่างไร
You never told me
เธอไม่เคยที่จะบอกฉันเลย
---------------------------------------------------------------------------------------------------
Fool Again
Baby, I know the story
ที่รัก ฉันรู้เรื่องราวของเธอ
1. เป็น present simple tense ดูจาก know เป็นกริยา ช่องที่ 1 แปลว่า รู้ ,ทราบ
2. story เป็นกรรมของประโยค แปลว่า เรื่องราว , ประวัติ
I've seen the picture
ฉันได้เห็นรูปภาพ
3. เป็น present perfect tense โดยดูจากมี โครงสร้างเป็น have/has+seen ซึ่งเป็นกริยาช่องที่ 3 ของ
verb to see แปลว่า ดู ,เห็น
It's written all over your face
มันได้แสดงออกมาทั้งหมดบนใบหน้าของเธอ
4. เป็น passive voice ดูจากมี is + written เป็นกริยาช่องที่ 3 ของ verb to write แปลว่า เขียน
5. face เป็นกรรม แปลว่า ใบหน้า
Tell me, what's the secret
บอกฉันซิ ถึงความลับของเธอ
6. เป็น present simple tense เพราะมี is เป็นกริยาช่องที่ 1
7. secret เป็นคำนาม แปลว่า ความลับ
That you've been hiding
ที่เธอได้หลบซ่อนเอาไว้
8. เป็น present perfect continuous tense โดยมี hiding เป็น present participle แปลว่า ซ่อน ,ปิดบัง
Who's gonna take my place
ใครกำลังที่จะแย่งที่ในใจของเธอจากฉันไป
9. เป็น future simple tense ดูจากมี is gonna ซึ่งมาจาก is going to แปลว่า จะ
10. place เป็นกรรม แปลว่า ที่ ,สถานที่
I should've seen it coming
ฉันควรที่จะเห็นเมื่อมันกำลังจะมาถึงนะ
11. coming เป็น continuous แปลว่า กำลังมา
I should have read the signs
ฉันควรที่เห็นอาการนั้น ก่อน
12. read เป็นกริยาช่องที่ 3 ของ verb to read แปลว่า เห็น
13. signs เป็นกรรม แปลว่า สัญญาณ
Anyway...I guess it's over
อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่า มันจบลงแล้ว
14. Anyway เป็นกริยาวิเศษณ์ แปลว่า ไม่ว่ายังไงก็ตาม
15. guess เป็นคำกริยา แปลว่า คิด คาดคะเน หรือเดา
16. over แปลว่า เลิก ,จบ
Can't believe that I'm the fool again
ไม่อยากเชื่อเลยว่า ฉันได้กลายเป็นคนโง่อีกครั้ง
17. fool เป็นคำนาม แปลว่า คนโง่
I thought this love would never end
ฉันเคยคิดว่าความรักนี้จะไม่มีวันจบลง
18. thought เป็นกริยาช่องที่ 3 ของ verb to think แปลว่า คิด
Baby, you should've called me
ที่รัก เธอควรทีจะเรียกหาฉันนะ
17. called เป็นกริยาช่องที่ 3 ของ verb to call แปลว่า เรียก
When you were lonely
ในเวลาที่เธออ้างว้าง
18. lonely เป็นคำคุณศัพท์ แปลว่า เปล่าเปลี่ยว ,อ้างว้าง
When you needed me to be there
เมื่อเธอต้องการให้ฉันไปอยู่ที่นั้น
19. needed เป็นกริยาช่องที่ 2 ของ verb to need แปลว่า ต้องการ
Sadly, you never gave me two many chances
น่าเสียใจ ที่เธอไม่เคยให้โอกาสฉันมากกว่าสองครั้งเลย
เป็น past simple tense เพราะใช้กริยาช่องสอง
20. sadly เป็นกริยาวิเศษณ์ แปลว่า น่าเสียใจ
21. chance เป็นคำนาม แปลว่า โอกาส
To show how much I care
ที่จะแสดงออกให้เธอรู้ว่า ฉันเป็นห่วง มากแค่ไหน
ที่จะแสดงออกให้เธอรู้ว่า ฉันเป็นห่วง มากแค่ไหน
22. Care เป็นกริยา แปลว่า เป็นห่วง
About the pain and the tears
เกี่ยวกับความเจ็บปวดและน้ำตานั่น
About the pain and the tears
เกี่ยวกับความเจ็บปวดและน้ำตานั่น
23. pain เป็นคำนาม แปลว่า ความเจ็บปวด
24. tear เป็นคำนาม แปลว่า น้ำตา
Oh, Oh, Oh
โอ โอ โอ
เป็นสัทพจน์ เลียนเสียงธรรมชาติ
If I could, I would turn back the time
ถ้าฉันสามารถ ฉันจะย้อนเวลากลับไป
If-clause ใช้ในสถานการณ์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ หรือไม่อาจเกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน
โครงสร้าง: If + Past Simple, would + V1
24. tear เป็นคำนาม แปลว่า น้ำตา
Oh, Oh, Oh
โอ โอ โอ
เป็นสัทพจน์ เลียนเสียงธรรมชาติ
If I could, I would turn back the time
ถ้าฉันสามารถ ฉันจะย้อนเวลากลับไป
If-clause ใช้ในสถานการณ์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ หรือไม่อาจเกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน
โครงสร้าง: If + Past Simple, would + V1
***********************************************************************